การปกป้องผิวด้วย “ครีมกันแดด” ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการดูแลผิว ซึ่งการที่เราจะใช้ครีมกันแดดให้ได้ผลนั้นจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวและช่วงวัย
การใช้ครีมกันแดดตามช่วงอายุ สำคัญอย่างไร?
ในแต่ละช่วงวัย ผิวเราต้องเผชิญกับปัจจัยที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมน มลภาวะ และสิ่งแวดล้อมภายนอก ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ก่อให้เกิดปัญหาผิวตามมามากมาย เช่น ในช่วงอายุ 12- 20 เรามักเผชิญกับปัญหาสิวและผิวหมองคล้ำ ความมีนบนใบหน้า ในช่วงอายุ 30 เราจะพบปัญหาผิวหน้าเริ่มแห้งกร้านและดูไม่สดใส เมื่อถึงวัย 40 สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือริ้วรอยที่เริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้า รวมถึงฝ้า กระ ที่เริ่มฝังลึกจนยากที่จะปกปิด ซึ่งการใช้สกินแคร์ และผลิตภัณฑ์กันแดดในเหมาะสมตามช่วงอายุ ที่ช่วยบำรุงและฟื้นฟูทุกปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด และช่วยให้เรามีผิวที่แข็งแรงสุขภาพดีอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงอายุใดก็ตาม
อายุที่เหมาะสมในการเริ่มใช้ ครีมกันแดด ตาม SUNSCREEN GUIDELINE ของ USFDA
แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด ตั้งแต่อายุ 6 เดือน โดยให้ใช้เป็น physical sunscreen SPF30-50+ ตามกฎหมายไทย และ SPF30 ตามกฎหมาย US
แต่โดยทั่วไปแล้วแพทย์ผิวหนังจะแนะนำให้เริ่มใช้สกินแคร์หรือผลิตภัณฑ์กันแดด เริ่มต้นตั้งแต่อายุประมาณ 12 ปี หรือเมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ซึ่งในช่วงอายุ 12-15 ปี ร่างกายจะพัฒนาเต็มที่ในทุกระบบ สกินแคร์ตัวแรกที่ต้องเริ่มใช้ก็คือ ‘ครีมกันแดด’ เพราะเป็นสกินแคร์พื้นฐานที่จะช่วยปกป้องผิวจากอันตรายของรังสี UV
การรู้จักใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ในช่วงอายุ 12 ปีเป็นต้นไป และค่อยๆ ปรับเปลี่ยนตามความเปลี่ยนแปลงของผิวหนังตามช่วงอายุและปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์ จะช่วยคงความอ่อนเยาว์และช่วยให้สุขภาพดีของผิวได้ไปอย่างยาวนาน
‘ครีมกันแดด’ เป็นสกินแคร์พื้นฐานที่จะช่วยปกป้องผิวจากอันตรายของรังสี UV หลังจากนั้นเมื่ออายุ 20 ปี เราจึงเริ่มใช้สกินแคร์ตัวอื่น ๆ อย่างเซรั่มและครีมบำรุง เพราะเป็นวัยที่ร่างกายจะเริ่มผลิตคอลลาเจนน้อยลง จนทำให้เกิดปัญหาผิวได้ง่าย การเลือกใช้สกินแคร์ให้เหมาะสมตั้งแต่วัย 20+ ขึ้นไปจึงเป็นวิธีที่จะช่วยคงคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวแข็งแรง ยืดหยุ่น และช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ช่วงอายุ 30+
ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์
เมื่อเข้าสู่วัย 30+ ที่สภาพผิว จะเริ่มเปลี่ยนแปลงไป จากต่อมไขมันที่เริ่มผลิตน้ำมันลดน้อยลง ทำให้เกิดปัญหาผิวแห้งกร้าน รูขุมขนกว้าง ซึ่งจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของริ้วรอยก่อนวัยในอนาคต ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์จะช่วยคงความชุ่มชื่นให้ผิวพร้อมทั้งปกป้องผิวจากรังสี UVA / UVB
ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant)
วัย 30+ เป็นวัยที่ต้องเผชิญกับมลภาวะและความเครียด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพและเกิดริ้วรอยได้ง่าย การเลือกใช้ครีมกันแดดมีส่วนผสมของสาร Antioxidant หรือสารต้านอนุมูลอิสระเข้ามาช่วยปกป้องเซลล์ผิวไม่ให้เสื่อมสภาพ และเกิดริ้วรอยร่องลึก
ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของ Ceramide Ceramide คือส่วนประกอบสำคัญในชั้นผิว ทำหน้าที่เปรียบเสมือนเกราะปกป้องผิวที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นพร้อมป้องกันไม่ให้เชื้อโรคและแบคทีเรียต่าง ๆ เข้ามาทำร้ายผิว ซึ่งในวัย 30+ เป็นวัยที่ Ceramide ในชั้นผิวจะเริ่มลดลงมากที่สุด ทำให้เกิดปัญหาผิวแพ้ง่าย ไวต่อการระคายเคือง ดังนั้นผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีส่วนผสมของ Ceramide จะช่วยให้ผิวแข็งแรงอยู่เสมอ
ช่วงอายุ 40+
ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์
สำหรับผิวในวัย 40+ จะพบปัญหาผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ จะช่วยลดความแห้งกร้าน และปกป้องผิวจากการสูญเสียความชุ่มชื่น ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของ Glycine Soja (Soybean) Oil ทำหน้าเป็นสารให้ความชุ่มชื้น หรือเป็นเสมือน Moisturizing ตามธรรมชาติ ช่วยป้องกันขบวนการออกซิเดชั่น ซึ่งเป็นสาเหตุการเกิดริ้วรอย ให้ผิวยกกระชับเต่งตึงขึ้นช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เนียนนุ่มอย่างเป็นธรรมชาติ ลดการสูญเสียน้ำออกจากผิวได้ จุดด่างดำ ฝ้า กระ แลดูจางลง
ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) เช่น Acetyl Hexapeptide-8 เป็นกลุ่มโปรตีนกรดอะมิโนขนาดเล็ก เป็นสารสกัดที่นำเข้าจาก ประเทศเกาหลี ที่ช่วยป้องกันและยับยั้งการเกิดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า ช่วยป้องกันริ้วรอยร่องลึก ช่วยให้ผิวตึงกระชับ ไม่หย่อนคล้อย
Hydrolyzed Wheat Protein ปรับสมดุลความชุ่มชื้นของผิว ต้านอนุมูลอิสระปกป้องผิวจากการระคายเคือง ปรับสมดุลผิว อุดมไปด้วยแร่ธาตุสารอาหารและกรดอะมิโนที่มีประโยชน์ต่อผิว
จะเห็นได้ว่าการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดให้เหมาะสมกับทุกช่วงวัยเป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องและบำรุงผิว ซึ่งนอกจากการใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ เราควรใช้วิธีอื่นๆร่วมด้วย เพื่อป้องกันผิวไม่ให้จากการทำลายของรังสี UVA / UVB อาทิ
– หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะช่วงเวลา 11.00 – 14.00 น.
-ใส่หมวกปีกกว้าง จะช่วยบังแสงแดดบริเวณหลังคอได้ด้วย
– ทาครีมกันแดด ในปริมาณเพียงพอ อย่างน้อย 3 มิลลิกรัมต่อตารางเซนติเมตร จึงจะป้องกันแดดได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ
สำหรับเจ้าของแบรนด์ที่ต้องการผลิตสกินแคร์ โดยเฉพาะหากสนใจผลิตครีมกันแดด นอกจากต้องเลือกโรงงานรับผลิตครีมกันแดด และมองหาโรงงานรับผลิตครีมที่ได้มาตรฐาน และมีบริการต่าง ๆ ให้กับคุณอย่างครบวงจร มีสารสกัดที่ตอบโจทย์ตามความต้องการ พร้อมรับ ผลิตสกินแคร์สร้างแบรนด์
ที่ AESTHETIC LAB And DEVEOPMENT หรือ ALD เรามีครีมกันแดดสูตรมาตรฐานกว่า 20 สูตร พร้อมทั้งสามารถพัฒนาสูตรให้ตรงตามความต้องการของเจ้าของแบรนด์
และยังรับผลิตขั้นต่ำเพียง 100 ชิ้น เพื่อให้คุณได้ทดลองตลาดด้วยการใช้ต้นทุนที่ไม่สูงมากไป มั่นใจได้ในเรื่องประสิทธิภาพและมาตรฐานในการผลิต
สนใจผลิตสกินแคร์สร้างแบรน