ความแตกต่างของบรรจุภัณฑ์แต่ละแบบ และเลือกอย่างไรให้เหมาะสม

ใคร ๆ ก็เป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวได้จริงหรือไม่? คำนี้ไม่เกินจริง แต่ก่อนที่เราจะเป็นเจ้าของแบรนด์ได้นั้น เราจะต้องรู้ขั้นตอนต่าง ๆ ในการผลิตก่อนว่ามีขั้นตอนอะไรบ้าง เพื่อให้สามารถนำสินค้ามาวางจำหน่ายได้ ไม่ว่าจะเป็น การวิจัยส่วนผสม การทดสอบผลิตภัณฑ์ การพัฒนาสูตร การขอ อย. รวมไปถึงการออกแบบและเลือกบรรจุภัณฑ์สำหรับบรรจุด้วย

ข้อนี้ถือเป็นอีกหนึ่งโจทย์หินของเจ้าของแบรนด์ทั้งหลายที่จะต้องมีการพิจารณาเลือกบรรจุภัณฑ์จากโรงงานรับผลิตครีม เพื่อให้สินค้าสวยงาม น่าเชื่อถือ น่าจับต้อง และสร้างภาพลักษณ์ต่อแบรนด์ได้ดี เพราะถ้าหากเราเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมและไม่ได้มาตรฐาน จะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์หรืออาจมีสารปนเปื้อนอันตรายไปถึงผู้บริโภคได้

ซึ่งในบทความนี้ โรงงานรับผลิตครีม AESTHETIC LAB & DEVELOPMENT จะมาแนะนำความแตกต่างของขวดบรรจุภัณฑ์แต่ละแบบ ว่าควรเลือกอย่างไรให้เหมาะสม
ก่อนอื่นต้องทราบก่อนว่า บรรจุภัณฑ์คืออะไร และมีกี่ประเภท

บรรจุภัณฑ์คืออะไร สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างไร?

บรรจุภัณฑ์ (Packing) เป็นอุปกรณ์หรือวัตถุที่ใช้สำหรับการบรรจุสินค้าต่าง ๆ เพื่อเป็นการปกป้องสินค้าให้ไปถึงมือผู้บริโภคอย่างปลอดภัย โดยทั่วไปแล้วบรรจุภัณฑ์ที่โรงงานรับผลิตครีมสามารถผลิตและจัดหาให้เจ้าของแบรนด์ได้นั้นมีหลายแบบ ด้วยความที่บรรจุภัณฑ์เป็นสิ่งที่ลูกค้าเห็นเป็นอันดับแรก การเลือกบรรจุภัณฑ์สินค้ากลุ่มสกินแคร์ หรือครีมบำรุงผิวที่มีความสวยงาม น่าดึงดูด และมีมาตรฐาน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สร้างความประทับใจต่อลูกค้าได้เป็นอย่างมาก

ในขณะเดียวกัน การเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ดีจะต้องเลือกจากโรงงานรับผลิตครีมโดยตรง เพื่อที่จะได้มั่นใจว่าเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน และปลอดภัยต่อผู้บริโภค ซึ่งประเภทของบรรจุภัณฑ์สำหรับบรรจุสกินแคร์ หรือเครื่องสำอางนั้นมีอยู่ด้วยกัน ประเภท ได้แก่

1.ขวดแก้ว

ขวดแก้วเป็นบรรจุภัณฑ์ที่นิยมใช้กันมากที่สุดสำหรับครีมบำรุงผิว เพราะขวดแก้วมีความแข็งแรง ทนทาน และสามารถป้องกันสกินแคร์จากแสงแดดและความร้อนได้ดี มีความปลอดภัยต่อผลิตภัณฑ์มากที่สุด เนื่องจากเป็นวัสดุที่ไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมีในผลิตภัณฑ์ สามารถบรรจุได้ทั้งเครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมหรือน้ำมันได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ขวดแก้วยังมีความสวยงาม สามารถออกแบบได้หลากหลาย ดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้เป็นอย่างดี สามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้ โดยโรงงานรับผลิตครีม มักจะมีขวดแก้วหลายแบบให้เจ้าของแบรนด์เลือก เช่น ขวดแก้วพร้อมหัวปั๊ม ขวดแก้วพร้อมหัวสเปรย์ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม ขวดแก้วก็มีข้อเสียคือมีน้ำหนักมากและมีโอกาสแตกง่าย

2.ขวด PET

ขวด PET เป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีลักษณะเป็นขวดพลาสติก ทำจากวัสดุประเภทโพลิเอทิลีนเทเรพทาเลต โรงงานรับผลิตครีมนิยมนำเสนอให้เจ้าของแบรนด์ เพราะขวดพลาสติกมีน้ำหนักเบาและไม่แตกง่าย มีความใส มันวาว ราคาไม่สูงมาก ไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมีในผลิตภัณฑ์

3.ขวดพลาสติก (PP)

ขวดพลาสติก (PP) เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ใช้วัสดุประเภทพลาสติกโพลีโพรพิลีน นิยมใช้สำหรับครีมบำรุงผิวที่มีเนื้อครีมข้นหรือมีส่วนผสมของน้ำมัน ส่วนใหญ่มักทำออกมาในรูปแบบของหลอดบีบ ซึ่งมีข้อดีคือ ใช้งานง่ายและพกพาสะดวก แต่ก็มีข้อเสียคือไม่สามารถป้องกันครีมบำรุงผิวจากแสงแดดและความร้อนได้ดีเท่ากับขวดแก้ว แต่มีความทนทานมากกว่า PET หากใครติดต่อโรงงานรับผลิตครีมให้ผลิตใส่บรรจุภัณฑ์หลอดบีบ จึงต้องคำนึงถึงจุดนี้ด้วย

4.บรรจุภัณฑ์ประเภทเอทิลีนชนิดความหนาแน่นสูง (HDPE)

อีกหนึ่งชนิดของบรรจุภัณฑ์ที่โรงงานรับผลิตครีมแนะนำ คือ บรรจุภัณฑ์ประเภทเอทิลีนชนิดที่มีความหนาแน่นสูง (HDPE) ซึ่งบรรจุภัณฑ์ประเภทนี้จะมีความปลอดภัยและมีความทนทานสำหรับการบรรจุเครื่องสำอาง เนื่องจากคงทนต่อความร้อนและสารละลายต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

5.บรรจุภัณฑ์ประเภทโลหะ

บรรจุภัณฑ์ประเภทโลหะ มักจะมาในรูปแบบของกระปุก เช่น สครับหรือบาล์ม เป็นต้น เป็นบรรจุภัณฑ์ที่นิยมใช้สำหรับครีมบำรุงผิวที่มีเนื้อครีมข้นหรือมีส่วนผสมของน้ำมัน สามารถป้องกันครีมบำรุงผิวจากแสงแดดและความร้อนได้ดี

แต่ก็มีข้อเสียคือใช้งานไม่สะดวกและพกพาลำบาก อีกทั้งยังอาจจะก่อให้เกิดสนิมได้ง่าย จึงไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่นัก หากทางเจ้าของแบรนด์ ระบุว่าอยากได้บรรจุภัณฑ์แบบโลหะ ทาง โรงงานรับผลิตครีม จะต้องหาบรรจุภัณฑ์ ที่ทำการเคลือบพิเศษก่อนนำมาบรรจุ เพื่อป้องกันการเกิดสนิมนั่นเอง

5 ปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงในการเลือกบรรจุภัณฑ์สกินแคร์จากโรงงานรับผลิตครีม

• เลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะกับเนื้อครีมบำรุง

ครีมบำรุงที่มีเนื้อครีมข้นหรือมีส่วนผสมของน้ำมัน ควรเลือกบรรจุภัณฑ์ที่สามารถป้องกันครีมบำรุงผิวจากการสัมผัสกับอากาศได้ดี เช่น ขวดแก้วหรือกระปุก ส่วนครีมบำรุงผิวที่มีเนื้อครีมบางเบาหรือไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน สามารถเลือกบรรจุภัณฑ์กลุ่ม พลาสติกหรือหลอดบีบได้

• เลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพแวดล้อม

ควรเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม เพื่อให้ผลิตภัณฑ์สามารถคงสภาพไว้ได้นาน เลือกบรรจุภัณฑ์ที่มีความแข็งแรงทนทาน เช่น ขวดแก้ว ที่ช่วยปกป้องประสิทธิภาพของสกินแคร์ได้เป็นอย่างดี

• เลือกบรรจุภัณฑ์ที่ใช้งานง่ายและพกพาสะดวก

หากต้องการสกินแคร์ที่ใช้งานง่ายและพกพาสะดวก ควรเลือกบรรจุภัณฑ์ กลุ่มหลอดบีบหรือกระปุก เนื่องจากในปัจจุบันผู้บริโภคส่วนมากนิยมพกพาเครื่องสำอางไปด้วย ไม่ว่าจะเดินทางหรือนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้ ใน 1 ผลิตภัณฑ์ ก็อาจจะเลือกผลิตเป็น 2 แบบได้ เช่น แบบขวดแก้วและแบบกระปุก เพราะฉะนั้น การเลือกขนาดของบรรจุภัณฑ์โดยอิงจากพฤติกรรมผู้บริโภค ก็เป็นปัจจัจจัยที่ควรคำนึงถึง

• การออกแบบบรรจุภัณฑ์และฉลาก

การออกแบบบรรจุภัณฑ์และฉลาก มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค เพราะจะช่วยสร้างความโดดเด่น ไม่ซ้ำใคร หรือหากเจ้่าของแบรนด์ต้องการออกแบบฉลากเอง ที่โรงงานรับผลิตครีม AESTHETIC LAB & DEVELOPMENT ก็เปิดโอกาสให้เจ้าของแบรนด์สามารถออกแบบในส่วนนี้เองได้ด้วย

• ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เลือกบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการเลือกวัสดุที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ และเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ นอกจากจะช่วยลดโลกร้อนแล้ว ยังมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคอีกด้วย ซึ่งข้อนี้ก็เป็นเรื่องที่โรงงานรับผลิตครีม AESTHETIC LAB & DEVELOPMENT ให้ความสำคัญมาโดยตลอด

บรรจุภัณฑ์สกินแคร์มีหลายประเภท แต่ละประเภทก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ดังนั้นเราควรเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับประเภทของสกินแคร์ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์คงไว้ซึ่งคุณภาพและประสิทธิภาพได้ยาวนาน และถือเป็นการสื่อถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์อีกด้วย

ทั้งหมดนี้ เป็นการแนะนำและชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างของบรรจุภัณฑ์แต่ละแบบ และวิธีการเลือกอย่างเหมาะสม หากคุณกำลังคิดที่จะสร้างแบรนด์ แต่ยังตัดสินใจไม่ได้เกี่ยวกับการเลือกบรรจุภัณฑ์ เราขอแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่างที่ โรงงานรับผลิตครีม AESTHETIC LAB & DEVELOPMENT โรงงานรับผลิตครีม ที่เริ่มตั้งแต่พัฒนาสูตร ออกแบบบรรจุภัณฑ์ ตราสินค้า ขึ้นทะเบียนสินค้า และหนังสือรับรองต่าง ๆ มั่นใจได้ในมาตรฐานการผลิตที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ASEAN GMP และ ISO 22716 มีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา แนะนำ สำหรับนักธุรกิจมือใหม่ ทางโรงงานมีสกินแคร์ทั้งสูตรมาตรฐานและสามารถพัฒนาสูตรได้ตรงตามความต้องการของเจ้าของแบรนด์อีกด้วย