ผิวหน้าของเราประกอบไปด้วย รูขุมขน เล็กๆ จำนวนมาก ซึ่งรูขุมขนเป็นทางออกของน้ำมันที่ผลิตมาจากต่อมไขมันใต้ชั้นผิวหนัง น้ำมันเหล่านี้จะช่วยเคลือบและหล่อเลี้ยงผิวให้มีความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ ถ้าเรามีรูขุมขนที่เล็กเกินไปก็จะทำให้เกิดการอุดตันแล้วกลายเป็นสิวอุดตันได้ง่าย ในขณะเดียวกันหากมีรูขุมขนกว้างเกินไป ก็จะส่งผลให้ผิวมีลักษณะหยาบกร้านไม่เรียบเนียน ซึ่งปัญหารูขุมขนเป็นอะไรที่ทุกคนพูดถึงเป็นอย่างมาก จากปัญหาขนาดหรือรูปร่างของมันไปจนถึงการที่ทำให้มันเล็กลง
แต่ละคนมีรูขุมขนเป็นล้าน ๆ พอมันใหญ่จนสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า ราวกับเห็นรูเล็ก ๆ ที่อยู่บนเปลือกส้มหรือเมล็ดสตรอเบอร์รี่ ก็ทำให้กังวลและหาวิธีแก้ไข รูขุมขนจะเริ่มมีให้เห็น ช่วงอายุ 20 ปี ก่อนที่จะมาเห็นชัดเจนอีกครั้งตอนช่วงอายุ 40 ปี และ 50 ปี ซึ่งเรามาดูสาระเพิ่มเติมของรูขุมขนกัน
ทำความรู้จัก “ รูขุมขน ”
รูขุมขน (Pores) คือรูเปิดขนาดเล็กที่อยู่บนผิวหนัง เป็นทางผ่านของเหงื่อและน้ำมัน ที่ถูกผลิตจากต่อมเหงื่อและต่อมไขมันที่อยู่ภายใน รูขุมขนจะกระจายอยู่ทั่วไปตามผิวหนังทุกส่วน แต่จะพบได้มากที่บริเวณผิวหน้า หลัง และหน้าอก น้ำมันจากต่อมไขมัน ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น ไม่แห้งแตก และมีความเป็นกรดอ่อน ๆ ซึ่งจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เข้ามารุกรานผิว ส่วนเหงื่อถือเป็นกลไกระบายความร้อน และยังช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย ปกติแล้ว รูขุมขนจะมีขนาดเล็ก จนอาจไม่สังเกตเห็น แต่ก็อาจมีสาเหตุบางประการ ที่ทำให้ให้รูขุมขนมีขนาดใหญ่ขึ้น จนสังเกตเห็นได้ชัด ทำให้เกิดผลกระทบทั้งกับสุขภาพผิวและความมั่นใจในตัวเอง
หน้าที่ของ ” รูขุมขน “
รูขุมขนที่ดูเล็ก แต่มีความสำคัญมากไม่แพ้อวัยวะอื่นๆ เพราะมีหน้าที่ระบายความร้อนของร่างกาย หากร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้นไม่ว่าจะเป็นจากการออกกำลังกายหรือการดำเนินชีวิตประจำวันอื่นๆ ร่างกายจะระบายความร้อนทางเหงื่อ เพื่อให้อุณภูมิร่างกายลดลง ช่วยทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น ช่วยผลิตน้ำมันซึ่งมีหน้าที่ให้ความชุ่มชื่นกับผิวหนัง แต่ถ้าผลิตมากเกินไปจะก่อให้เกิดปัญหารูขุมขนกว้าง นอกจากนี้รูขุมขนยังสามารถแสดงความรู้สึกต่างๆ เช่น กลัว ตกใจ หรือหนาว ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อเล็กๆ บริเวณรูขุมขนทำงาน ทำให้เกิดอาการขนลุกนั่นเอง
ปัจจุบันพบว่าปัญหาหนักอกของคนส่วนใหญ่ คือ รูขุมขนกว้าง โดยเฉพาะกลุ่มคนสภาพผิวมัน เพราะต่อมไขมันทำงานหนักผิดปกติ ทำให้น้ำมันเคลื่อนที่มาบนชั้นผิวหนังด้านบน ทำให้ผิวหน้าดูมันเงา และทำให้รูขุมขนกว้างผิดปกติ เกิดปัญหาสิวอุดตัน สิวอักเสบตามมา ซึ่งสาเหตุของปัญหานี้ เกิดได้จากหลากหลายปัจจัย
รูขุมขนกว้าง เกิดจากอะไร ?
- อายุมากขึ้น ความชราของผิวทำให้เกิดปัญหารูขุมขน จากที่เคยผิวกระชับก็หย่อนคล้อย รูขุมขนขยาย ผิวเสื่อมโทรมตามกาลเวลา
- การสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสติน เพราะคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบหลักของผิว หากสูญเสียคอลลาเจนไปจำนวนมาก ผิวจะหย่อนไม่กระชับ และทำให้รูขุมขนกว้างไม่กระชับ
- ฮอร์โมนไม่สมดุล ส่งผลให้ผิวหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง เกิดปัญหาริ้วรอยต่างๆ หากมีฮอร์โมนบางชนิดมากเกินไป อาจส่งผลให้เกิดปัญหาสิว ทำให้เกิดผิวมันมากขึ้น เกิดสิวอุดตัน และรูขุมขนกว้าง ผิวไม่เนียนเรียบ
- เพศ โดยเพศชายมักมีสภาพผิวมัน และรูขุมขนกว้างได้มากกว่าเพศหญิง ซึ่งปัญหารูขุมขนกว้างของเพศหญิงอาจจะพบได้จากผลกระทบของฮอร์โมน และการมีรอบเดือน
- แสงแดด จากรังสี UVA และ UVB ซึ่งรังสีUVA สามารถทำลายคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังแท้ได้ หากตากแดดเป็นประจำ ทำให้ผิวดูแห้งกร้าน รูขุมขนกว้างขึ้น และมีริ้วรอยก่อนวัย
- สภาพของผิว มีส่วนสำคัญทำให้เกิดปัญหารูขุมขน เนื่องจากคนที่มีสภาพผิวมันหรือคนที่มีผิวมันบริเวณ T-Zone มักจะมีปัญหารูขุมขนกว้างกว่าคนที่มีผิวปกติ
ปัญหารูขุมขนกว้างสามารถรักษาได้ ซึ่งมีทั้งการดูแลด้วยการรักษาโดยใช้เลเซอร์ ใช้วิธีธรรมชาติ ไปจนถึงการใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์บำรุง เพื่อให้ได้ผิวหน้าที่กระชับรูขุมขนเล็กลง
การรักษา รูขุมขนกว้าง โดยใช้เลเซอร์
การใช้เลเซอร์อาจจะเป็นทางเลือกที่ต้องศึกษาข้อมูลให้ดี เพราะมีผลข้างเคียง ด้วยกลไกการเข้าไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นหนังแท้ เพื่อให้ผิวดูเต็ม เรียบเนียนขึ้นมา การใช้เลเซอร์สามารถแบ่งย่อยออกมาได้ 2 กลุ่ม คือ
” เลเซอร์แบบเป็นแผลเป็นหลังการรักษา “
เป็นเลเซอร์ที่ภายหลังการรักษา จะมีแผลเป็นจุดๆเล็กๆ คล้ายกับตารางหมากรุกถี่ๆในตำแหน่งที่ทำการรักษา ซึ่งต่อมาจะตกสะเก็ด โดยสะเก็ดมักจะหลุดไปภายใน 1 สัปดาห์ เรียกว่า แฟรคชันนัลเลเซอร์ (fractional laser)
ข้อเสียของการรักษา คือ ผิวแห้ง ผิวแดง บวม และผู้ที่รักษาวิธีนี้อาจเกิดรอยดำ เนื่องจากไม่หลีกเลี่ยงการเจอแสงแดด
การเลือกชนิดของเลเซอร์ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัย ในแง่ของการเกิดรอยดำหลังการอักเสบภายหลังการทำเลเซอร์ โดยพบว่าเลเซอร์ชนิดเออร์เบียมมักจะก่อให้เกิดรอยดำหลังการทำเลเซอร์ได้น้อยกว่าเลเซอร์ชนิดคาร์บอนไดอ๊อกไซด์
” เลเซอร์แบบไม่มีแผลเป็นหลังการรักษา “
เป็นเลเซอร์ที่ไม่ก่อให้เกิดแผลหรือสะเก็ดภายหลังทำการรักษา ขณะที่รับการรักษา อาจจะรู้สึกอุ่นๆที่ผิวหนัง แต่ไม่เจ็บแสบ และไม่ต้องหลบแดดหลังการทำเลเซอร์ เพื่อป้องกันการเกิดรอยดำหลังการอักเสบ เหมือนกับการรักษาด้วยเลเซอร์ในกลุ่มแรก เลเซอร์ที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้มีหลายยี่ห้อ หลายชนิด บางชนิดจะมีการทาผงถ่านคาร์บอนสีดำๆ ไว้บนผิวหน้าก่อนที่จะทำการรักษา เพื่อให้ผงถ่านตกลงไปรวมอยู่ในรูขุมขน แล้วจึงยิงเลเซอร์ตามลงไปที่บริเวณนั้น เมื่อผงถ่านคาร์บอนรับพลังงาน จะก่อให้เกิดความร้อนสะสมที่ตำแหน่งรูขุมขนนั้น ซึ่งส่งผลให้เกิดการกระชับตัวของคอลลาเจนที่ผิวหนัง ณ ตำแหน่งนั้น รูขุมขนจึงดูเรียบเนียนขึ้น
FYI : แฟรคชันนัลเลเซอร์ (fractional laser) เป็นการรักษาผิวทีละส่วน โดยไม่มีการรบกวนเนื้อเยื่อที่อยู่รอบๆ เนื่องจากเลเซอร์สามารถแทรกลงไปยังเนื้อเยื่อผิวหนังชั้นแท้ (dermis) เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่
การรักษา รูขุมขน โดยการบำรุงผิว
ความสะอาด การพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว คือปัจจัยปฏิบัติของการมีผิวแข็งแรง แต่สุดท้าย ความชราคือกระบวนการที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของชีวิต ซึ่งก็จะมาพร้อมความกังวลจากปัญหารูขุมขนที่กว้าง เราสามารถดูแลตัวเองด้วยศาสตร์ชะลอวัยตั้งแต่ตอนนี้ คือการเลือกใช้เซรั่ม เอสเซนซ์ โลชั่น และโทนเนอร์ ที่ให้ความชุ่มชื้นและเพิ่มความกระชับให้แก่ผิว
ซึ่งต้องยอมรับว่าในวงการสกินแคร์ เป็นวงการที่มีความเคลื่อนไหวของสารสกัดใหม่ๆ และไม่เคยหยุดสร้างสรรค์ส่วนผสมที่เห็นประสิทธิภาพอย่างชัดเจน เพื่อนำมาใช้ในการผลิต ว่าแต่จะมีสารสกัดอะไรบ้างที่ช่วยเรื่องกระชับรูขุมขนไปดูกัน
สารสกัดที่นิยมใส่ในผลิตภัณฑ์สกินแคร์
- กลุ่มวิตามิน เช่น วิตามินบี 3, 6, 9 มีประสิทธิภาพในการบำรุงผิวในหลายๆด้าน โดยมีจุดเด่นด้านการควบคุมความมัน และกระชับรูขุมขน ช่วยแก้ปัญหาเรื่อง รูขุมขนที่กว้าง ริ้วรอยหรือแม้กระทั่งรอยดำรอยแดงที่เกิดจากสิว หรือสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ
- เรตินอยด์ ซึ่งเป็นสารอนุพันธ์ของวิตามินเอ จะมีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน ทำให้รูขุมขนดูเล็กลง และยังมีผลต่อการรักษาสิวด้วย
- กลุ่มแร่ต่างๆ เช่น แร่สังกะสีและแมกนีเซียม ช่วยรักษาสมดุลความมันของผิว และทำให้รูขุมขนดูเล็กลง
- กลุ่มสารสกัดธรรมชาติ เช่น สารสกัดพลูคาว สารสกัดจาก Micro-Filtered Yeast Extract หรือ “พิเทร่า”, วิซฮาเซล, ลาเวนเดอร์, อีฟนิ่งพริมโรส, มิกซ์เบอรี่, โรสฮิป, อาร์แกน, คาโมมายล์, ดอกโบตั๋น, เมล็ดแครอทและซีบัคธอร์น ที่ช่วยลดการระคายเคืองผิว และป้องกันไม่ให้รูขุมขนขยายกว้างขึ้น
- กลุ่มสารสังเคราะห์ เช่น สารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ช่วยเร่งการผลัดผิวที่เสื่อมสภาพให้กลับมาทำงานได้ปกติมากขึ้น
นี่เป็นเพียงสารสกัดส่วนหนึ่งที่หลายๆแบรนด์ดัง นิยมใส่ในผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยเรื่องการกระชับรูขุมขน ซึ่งสารสกัดยังมีอีกมากมายให้ผู้ประกอบการได้คัดสรรค์มาสร้างผลิตภัณฑ์ให้โดดเด่นจากแบรนด์อื่นๆ ซึ่งการดูแลรูขุมขนด้วยสกินแคร์ ก็ยังถือว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องมีติดไว้ เพราะเป็นปัญหาผิวที่บุกไปหาได้กับทุกกลุ่มคนที่อายุมากขึ้น ดังนั้นจึงควรใช้อย่างถูกวิธี ฉะนั้นแล้วนอกจากการบำรุงด้วยสกินแคร์ ก็ควรหมั่นดูแลใส่ใจเรื่องความสะอาด เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้เกิดปัญหารูขุมขนกว้าง เพียงเท่านี้ก็จะช่วยลดปัญหาผิวกวนใจ