อยากลงทุนสร้างแบรนด์?! เสียเงินแบบไม่ต้องเสียเวลา ต้องรู้ 7 สิ่งนี้ก่อนเริ่มทำแบรนด์ ใช้เป็นกลยุทธ์การค้าก่อนเริ่มลงมือทำธุรกิจได้ทุกธุรกิจ รวมถึงการทำธุรกิจสร้างแบรนด์สกินแคร์ที่กำลังมาแรงในปีนี้อีกด้วย
1. รู้จักกลุ่มเป้าหมาย
เริ่มทำแบรนด์สกินแคร์ต้องรู้จักกลุ่มเป้าหมายหรือกลุ่มลูกค้าก่อนว่า “ต้องการขายสินค้าให้ใคร” เพื่อง่ายต่อการมองหาสินค้าที่ตอบโจทย์ เช่น กลุ่มเป้าหมายผู้หญิงช่วงวัย 15-22 ปี สินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าในกลุ่มนี้ คือ สกินแคร์ที่ช่วยเรื่องลดสิว ปรับผิวใส และปรับผิวขาวสม่ำเสมอ อีกทั้งยังช่วยให้สามารถกำหนดราคาได้เหมาะสมกับลูกค้าอีกด้วย เป็นต้น
2. รู้จักสินค้าที่อยากขาย
เมื่อรู้ว่าต้องการขายสินค้าให้ใครแล้ว สิ่งต่อมา คือ การมองหาสินค้าที่ต้องการขาย อาจจะเริ่มจากความชอบส่วนตัว และค่อยขยับมาเป็นสินค้าประเภทที่คุ้นเคยหรือกำลังเป็นกระแส เพราะจะได้ไม่ต้องมานั่งศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าใหม่ทั้งหมดเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการสั่งผลิต
3. รู้จักโรงงานรับผลิตที่ได้มาตรฐาน
โรงงานผลิตเครื่องสำอางมีมากมาย แต่ก่อนสร้างแบรนด์จำเป็นต้องเลือกเฟ้นหาโรงงานที่ได้มาตรฐาน มีการรองรับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง Aes-de คือ โรงงานรับผลิต OEM สร้างแบรนด์ครีม สกินแคร์ และเครื่องสำอางทุกชนิด ขั้นต่ำน้อย
เหมาะสำหรับคลินิกและธุรกิจความงาม โรงงานได้รับมาตรฐานการผลิตที่ได้รับยอมรับจากทั่วโลก Asean GMP และ ISO 22716 มั่นใจได้ในทุกขั้นตอนการผลิต
4. รู้จักศึกษาตลาดให้ชัดเจน
กลุ่มลูกค้าพร้อม สินค้าพร้อม และโรงงานผลิตพร้อม ขั้นต่อมา คือ การศึกษาตลาดให้ชัดเจนว่า สินค้าของคุณกำลังเป็นที่นิยมอยู่หรือเปล่า มีแนวโน้มทางธุรกิจเป็นอย่างไรบ้าง และที่สำคัญอย่าลืมสำรวจตลาดคู่แข่งให้ดีเพื่อนำมาทำการเปรียบเทียบและวางแผนกลยุทธ์ต่อไป
5. รู้จักวางแผนทางการเงินให้ถี่ถ้วน
ลงทุน ลงแรงต้องไม่เสียเปล่า ดังนั้นก่อนการลงทุนเริ่มทำแบรนด์ทุกครั้งต้องวางแผนทางการเงินให้ถี่ถ้วน เพราะนอกจากต้องเตรียมเงินไว้สำหรับการผลิตสร้างแบรนด์แล้ว ต้องมีเงินหมุนเวียนเพื่อใช้ในกรณีต่าง ๆ ด้วย เช่น ค่าทำการตลาด, ค่าจ้างพนักงาน, ค่าขนส่ง, ค่าสาธารณูปโภค เป็นต้น
6. รู้จักสร้างคอนเทนต์แบรนด์ให้ถูก SOCIAL
การขายออนไลน์ในปัจจุบันต้องจับจุดลูกค้าให้ถูก เพราะแต่ละช่องทาง SOCIAL แม้จะเป็นลูกค้ากลุ่มเดียวกัน แต่ก็มีพฤติกรรมการบริโภคที่แตกต่างกันไป จึงควรศึกษาพฤติกรรมลูกค้าในทุกแพลตฟอร์มให้ดีเพื่อยอดขายปัง ๆ เช่น การขายสินค้าผ่านช่องทาง Instagram ต้องเน้นถ่ายรูปให้สวยงามดูโดดเด่น คุมโทนรูปภาพเพื่อความสวยงามของหน้าสินค้า และการขายสินค้าผ่านช่องทาง Twitter ต้องเน้นขายให้ไม่เหมือนขาย ใช้ถ้อยคำที่เป็นกันเองจะช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น
7. รู้จักรับมือกับทุกผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
การลงทุนมีความเสี่ยง คำกล่าวนี้ไม่เกินจริง ดังนั้นในทุกการลงทุนจำเป็นต้องมี “แผนสำรอง” อยู่เสมอ เพื่อรองรับเรื่องไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นให้คุณสามารถดำเนินแผนธุรกิจไปปได้อย่างไม่สะดุดทั้งการขาดทุน, การที่สินค้ายังไม่เป็นที่รู้จัก หรือการที่การสร้างแบรนด์มีค่าใช้จ่ายเกินกว่างบที่กำหนด