ใกล้เข้าปีใหม่กันแล้ว วันนี้ขอชวนทุกคนมาอัปเดตเทรนด์ธุรกิจ 2022 และพฤติกรรมผู้บริโภคที่น่าจับตามองกัน จะได้เตรียมตัวปรับแผนงาน และแนวทางในการสร้างแบรนด์ เพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์ที่มีแววว่าจะมาแรง ขายอะไรก็ตรงใจลูกค้า ช่วยสร้างโอกาสในการเพิ่มยอดขายได้อย่างดี จะมี เทรนด์ธุรกิจความงาม สร้างแบรนด์ปี 2022 ตัวไหนกำลังมาบ้าง เรามาดูกันเลย
Trend 1 ‘Clean beauty‘
เทรนด์ธุรกิจความงาม ที่เปลี่ยนแปลงโลกของความงามไปอย่างสิ้นเชิง
เราอาจเคยรู้จักคำว่า Green Beauty, Pure Beauty, Natural Beauty รวมถึง Organic Beauty กันมาบ้างแล้ว แต่เชื่อว่า Clean Beauty ยังเป็นอะไรที่แปลกใหม่และไม่เคยได้ยินมาก่อนสำหรับคนไทยส่วนใหญ่ แต่หลังหมดโควิด-19 กระแส Well being หรือกระแสที่หันมารักสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีกันมากขึ้นมีแนวโน้มว่าจะเป็นเทรนด์ธุรกิจ 2022 ที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง และถ้าพูดถึงสินค้าที่น่าสนใจพร้อมให้คุณสร้างแบรนด์ตอนนี้ก็มี Clean beauty นี่ล่ะที่ตอบโจทย์ที่สุด ด้วยเหตุผลมากมายไม่ว่าจะเป็นตัวผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารเคมีอันตรายตรงใจกับผู้ใช้งานกลุ่มนี้ และถ้ายิ่งออกแบบภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดูดี มีความมินิมอลเรียบหรูก็จะยิ่งดึงดูดกลุ่มลูกค้าได้มากเช่นกัน
Trend 2 ‘กัญชง’
สมุนไพรน้องใหม่ อีกหนึ่งตัวเลือกของคนสร้างแบรนด์
หลังจากที่มีกระแสไปเมื่อกลางปี กัญชงก็เตรียมตัวกลับมาเขย่าวงการเครื่องสำอาง และยาแผนโบราณกลายเป็นเทรนด์ธุรกิจ 2022 ที่น่าจับตามองอีกครั้ง แถมยังมาแรงสุด ๆ ในโลกออนไลน์ เพราะหลังจากที่ใช้เวลาปลูกกันมาสักพัก ตอนนี้ก็ได้เวลานำกัญชงมาผลิตใส่ในเครื่องสำอางพร้อมวางขายกันอย่างจริงจัง หลายคนคงทราบกันดีถึงข่าวการปลดล็อก ‘กัญชง’ ที่อนุญาตให้ทุกภาคส่วน ทั้งเกษตรกร ภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไป สามารถทำเรื่องขอปลูกกัญชงได้ทุกวัตถุประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นการค้า การแพทย์ หรือการศึกษาวิจัย นอกจากนี้ยังสามารถนำส่วนประกอบ หรือน้ำมันสกัดจากกัญชงมาแปรรูปสร้างแบรนด์ เช่น เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เครื่องดื่ม และอาหารเสริมได้อีกด้วย ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชงมีแนวโน้มที่จะเติบโตเป็นอย่างสูง อาจเป็นเพราะความแปลกใหม่ในไทย และสรรพคุณที่มีอย่างล้นเหลือ เพราะฉะนั้นใครอยากเกาะกระแส เทรนด์ธุรกิจความงาม ที่ขายของออนไลน์ หรือมีแผนอยากเริ่มต้นสร้างแบรนด์กัญชงอยู่ล่ะก็ นี่ล่ะเตรียมตัวได้เลย
Trend 3 ‘Scent Marketing’
ทำให้คนจ่ายเงินได้ก็เพราะ ‘กลิ่น’
หากในปี 2022 โควิด-19 จะหมดไปจากโลกจริง ๆ กลายเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดาชนิดหนึ่ง หลาย ๆ อย่างในชีวิตคงจะกลับมาเป็นปกติ แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนมองว่าอาจจะยังคงอยู่ ไม่ใช่แค่การรักความสะอาด แต่เป็นการ Work from home ที่หลายบริษัทอาจปรับเวลาทำงานให้ยืดหยุ่น ไม่บังคับให้พนักงานเข้าออฟฟิศทุกวันอย่างแต่ก่อน ซึ่งจุดนี้จะเป็นเรื่องดีสำหรับคนที่ทำแบรนด์เครื่องหอมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นก้านไม้หอมระเหย เทียนหอม หรือบอดี้เพอร์ฟูม อโรม่าออย เพราะเมื่อยังอยู่บ้านกันแบบนี้ หลายคนก็ยังซื้อมาใช้แต่งกลิ่นภายในห้อง เพื่อเพิ่มบรรยากาศพักผ่อนหรือทำงาน หรือทาผิวกายเพื่อเพิ่มความสดชื่น ทำให้ยังเป็นเทรนด์ธุรกิจ 2022 ที่ปังอยู่เหมือนเดิม นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ก็เป็นเทรนด์ขายของออนไลน์ที่น่าจับตามองเช่นกัน เพราะมีหลายแบรนด์ที่นำออกมาวางขายออนไลน์แล้วขายดีกันเป็นเทน้ำเทท่าเลยทีเดียว
ถือว่าทั้ง 3 เทรนด์ธุรกิจความงาม ที่กล่าวมานี้ อาจจะดูไม่ใช่เรื่องใหม่สักเท่าไร แต่ถือว่าเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นเพื่อล้อไปตามสถานการณ์และพฤติกรรมของผู้บริโภคในปี 2022 ที่แท้จริง เพียงแค่เราต้องรีบจับตลาดและปรับตัวพร้อมรับให้ทันเท่านั้นเอง เมื่อเราทราบเทรนด์ธุรกิจที่น่าจับตามองกันแล้ว ต่อไปเรามาอัปเดตพฤติกรรมผู้บริโภคปี 2022 กันบ้างดีกว่า เพื่อจะได้เลือกขายได้ถูก Gen ปรับแผนธุรกิจได้ทันโลก
พฤติกรรมผู้บริโภคในปี 2022 และโอกาสทางธุรกิจ
จากรายงาน Generation Focus 2022 ฉายภาพให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เมื่อความเครียดกลายมาเป็นเรื่องของคนทุกเจนในบ้าน แต่กลับน่าสนใจว่า Baby Boomer กลับมีความเครียดน้อยที่สุดจากทุกเจน และ Gen Y กับ Gen Z มีความเป็น Digital Activist อย่างชัดเจนมากกว่าทุกปีที่เคยเป็นมา พวกเขากลายเป็นกลุ่มที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงของภาครัฐและสังคมให้ไปในทิศทางที่เห็นว่าดีกับมุมมองและบริบทยุคปัจจุบัน ส่วน Generation X นั้นค่อยๆ กลายเป็นผู้นำแทน Baby Boomer บทความนี้จึงขอพาทุกคนมาทำความเข้าใจพฤติกรรมแต่ละเจน เพราะยิ่งเข้าใจผู้บริโภคมากเท่าไหร่ โอกาสสร้างกำไรทางธุรกิจความงาม ก็มีมากขึ้นตามไปด้วย
Baby boomer อายุ 57-75 ปี
#สูงวัย ใส่ใจสุขภาพ เน้นซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น
คนรุ่นวัยเกษียน หลังจากเจอพิษโควิด-19 เข้าไป จากที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพเป็นอันดับหนึ่งอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ใส่ใจมากกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว เทรนด์ผู้บริโภค 2022 ที่น่าจะมาแรงก็หนีไม่พ้นสินค้าส่งเสริมสุขภาพทั้งหลาย เช่น ยาหม่อง น้ำมันนวด นอกจากนี้สินค้าอย่างเครื่องหอมที่เป็นเทรนด์ธุรกิจ 2022 ก็น่าสนใจเช่นกัน และอย่าลืมทำโฆษณาเน้นเรื่องสมุนไพร ที่อาจเพิ่มลูกค้าได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนเรื่องช่องทางการเข้าถึงที่คน Baby boomer ใช้อยู่ ตอนนี้ยังคงเป็น Facebook และ Line อย่างที่เรารู้กัน ส่วน Instagram ก็เริ่มมีบ้างแล้ว หากพูดถึงเรื่องช้อปออนไลน์ยังคงหายห่วง กลุ่ม Baby boomer เริ่มหันมาซื้อผ่านของออนไลน์กันมากขึ้นเป็นผลพวงมาจากช่วงล็อกดาวน์ออกไปซื้อของไม่ได้นั่นเอง ธุรกิจไหนที่มีกลุ่มเป้าหมายช่วงอายุเท่านี้ก็อาจจะต้องปรับตัว หันมาขายออนไลน์ให้มากขึ้นด้วย
Gen X อายุ 41-56 ปี
#วัยกลางคน ถูกใจซื้อใช้ยาว ๆ แถมชอบดู YouTube เป็นชีวิตจิดใจ
ตามรายงานบอกไว้เลยว่ามีความ Loyalty สูง ชอบแบรนด์ไหนก็จะซื้อใช้ซ้ำไปเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นถ้าคุณเลือกทำการตลาดดี ๆ ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มนี้ให้เข้าใจ มองหาสินค้าที่คิดว่าจะแก้ Pain point ของคนกลุ่มนี้ได้ก็อาจจะช่วยเพิ่มโอกาสที่จะขายให้กลุ่มนี้ได้เช่นกัน ส่วนเรื่องช่อง Social media ที่คน Gen X ชอบติดตามกันอยู่บ่อย ๆ ก็ยังคงเป็น Facebook มาแรงเป็นอันดับหนึ่ง ตามมาด้วย YouTube ที่มองข้ามไปไม่ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นก็แนะนำให้ลองทำ YouTube marketing เพิ่มเติม อาจจ้าง YouTuber ที่มีกลุ่มคนดูเป็น Gen x ในการโฆษณาขายของก็เป็นตัวเลือกโปรโมทที่เหมาะเช่นกัน หรือไม่ก็ลงมือทำคลิปลงช่อง YouTube ของแบรนด์เองเลยก็น่าสนใจ
Gen Y อายุ 25-40 ปี
#วัยสร้างตัว เจอเรื่องเครียดบ่อย ติดโซเชียลมากที่สุด
Gen Y ส่วนใหญ่มีความเครียดสะสม ทั้งเรื่องโควิด-19 และเป็นช่วงอายุที่บางคนต้องแบกรับภาระหนักมากมาย เทรนด์ผู้บริโภค 2022 ของคนกลุ่มนี้จึงมักใส่ใจในเรื่องสุขภาพจิตของตัวเองเป็นพิเศษ เน้นมองหาผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยผ่อนคลายในแต่ละวัน หลังต้องผ่านอุปสรรคเรื่องเครียดมากมาย สินค้าที่จะเหมาะขายสำหรับคนกลุ่มนี้ก็จะเป็น เครื่องหอมบรรเทาความเครียด และเครื่องสำอาง Clean beauty ที่สอดคล้องกับเทรนด์ธุรกิจ 2022 พอดี หรือไม่ก็ผลิตภัณฑ์นวดไว้สำหรับใช้ผ่อนคลายด้วยตัวเองได้ที่บ้าน สำหรับช่องทางที่จะเข้าถึงคน Gen Y ก็เน้นไปที่ Social media เช่น Facebook และ Instagram ได้เลย เพราะเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น ๆ แล้ว คน Gen Y จะใช้ช่องทางเหล่านี้เยอะมากที่สุด ส่งผลให้การทำ Social media marketing ให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์มจึงเป็นเรื่องสำคัญ นอกจากนี้การออกแบบผลิตภัณฑ์ก็ช่วยดึงดูดคนกลุ่มนี้ได้อีกด้วย เพราะส่วนใหญ่จะเน้นไปที่สินค้าสไตล์มินิมอล มีความเรียบ ๆ แต่ดูดี ถ่ายรูปสวย แต่งห้องได้ ใช้งานดี ใครจะสร้างแบรนด์สินค้าก็อย่ามองข้ามเรื่องบรรจุภัณฑ์การออกแบบไปเด็ดขาด
Gen Z อายุ 9-24 ปี
#วัยอนาคตของชาติ ใส่ใจเรื่องสังคมและสิ่งแวดล้อม
Gen Z เป็นกลุ่มที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว เพราะว่าเป็นกลุ่มลูกค้าที่กำลังเข้าสู่ช่วงวัยทำงาน กำลังซื้ออาจยังไม่มาก แต่ถ้าสินค้าดีจริงพวกเขาก็พร้อมจ่าย แต่ก็ต้องบอกก่อนว่าการที่จะเอาใจคนกลุ่มนี้เป็นงานหนักของหลายแบรนด์เช่นกัน เพราะภาพลักษณ์ และจุดยืนของแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญในสายตาของคน Gen Z มาก ถ้าเกิดคุณทำพลาด หรือให้บริการไม่ดี ก็อาจมีการบอกต่อจนโดนแบนกันไปเลยก็ได้ แต่ถ้าคุณสามารถเข้าครองใจพวกเขาได้ ก็มีโอกาสที่จะขายดีกันเป็นเทน้ำเทท่าเลยเช่นเดียวกัน
นอกจากจุดยืนเกี่ยวกับประเด็นทางสังคมและการเมืองต่าง ๆ ที่คน Gen Z ให้ความสนใจแล้ว ยังมีเรื่องสิ่งแวดล้อมที่จำเป็นไม่แพ้กัน ดังนั้นถ้าคุณจะขายลูกค้ากลุ่มนี้อาจต้องหาวิธีเลี่ยงการทำร้ายโลกให้ได้มากที่สุด ตั้งแต่ตัวสินค้าไปจนถึงบรรจุภัณฑ์ และเมื่อถึงตอนโฆษณาคุณก็อาจต้องชี้จุดนี้ให้กลุ่มลูกค้าเห็น ทั้งนี้อย่าลืมให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้ามาเป็นอันดับหนึ่งด้วยนะ ถ้าพูดถึงเทรนด์ธุรกิจ 2022 ที่จะตรงใจกับคน Gen Z มากที่สุดก็จะเป็นเครื่องสำอาง Clean beauty เพราะไม่มีการใช้สารเคมีอันตราย แถมส่วนใหญ่ยังไม่มีการทดลองในสัตว์ มาพร้อมหน้าตาเรียบหรู ดูดี ถูกใจกันตั้งแต่แรกเจอเลยทีเดียว ถ้ามองหาสินค้าสำหรับคน Gen Z ลองดูเครื่องสำอาง Clean beauty ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
เมื่อทราบแนวโน้มของ เทรนด์ธุรกิจความงาม 2022 และเทรนด์ผู้บริโภคกันแล้ว ก็อย่าลืมนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณ จะได้เตรียมตัวให้พร้อมก่อนใคร สร้างแบรนด์กันปัง ๆ กันตั้งแต่ต้นปีไปเลย ทั้งนี้เราขอแนะนำให้เตรียมแผนให้พร้อมยืดหยุ่นได้ทุกสถานการณ์ เพราะอาจมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเหมือนกับเจ้าโควิด-19 อีกก็เป็นได้
ข้อมูลอ้างอิง :
https://lofficielthailand.com/ // https://clubsister.com/ // https://www.vogue.co.th // https://www.everydaymarketing.co/ // https://www.smethailandclub.com/
⭐️กลุ่มผลิตภัณฑ์เติมความชุ่มชื้น Click
⭐️ สำหรับผู้ที่สนใจสร้างแบรนด์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม