ด้วยการเติบโตของโลกดิจิทัลมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทำให้มีแบรนด์เกิดขึ้นใหม่มากมาย ส่งผลให้เกิดการแข่งขันทางการตลาดที่สูงขึ้น แม้จะมีดิจิทัลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันแบรนด์ แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นทุกแบรนด์ที่ทำแล้วจะประสบความสำเร็จ หลายธุรกิจก็พบเจอกับทางตันเช่นกัน
ดังนั้น การสร้างแบรนด์นอกจากเรื่องของฐานข้อมูลลูกค้า และกลยุทธ์ของแบรนด์แล้ว การนำดิจิทัลมาใช้ประโยชน์และผลักดันธุรกิจจนไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้จึงมีความสําคัญเป็นอย่างมาก
สร้างแบรนด์ให้ปังในยุคดิจิทัลทำอย่างไร?
แบรนด์ต้องโดดเด่นและเป็นที่จดจำ
ไม่ว่าจะเป็นตัวตนของแบรนด์ ตัวสินค้าหรือในรูปแบบการบริการ ต้องมีความโดดเด่น จดจำง่าย หากสินค้าหรือบริการไม่โดดเด่นและมีสินค้ากลุ่มเดียวกันในท้องตลาดเป็นจำนวนมาก แบรนด์จำเป็นที่จะต้องสร้าง Key Message มาเป็นตัวช่วยในการสื่อสาร เพื่อสร้างอัตลักษณ์ของแบรนด์ จะเห็นได้จากตัวอย่างแบรนด์ เช่น ชุดนักเรียนตราสมอจะมี Key Message ที่ว่า “ใส่สมอ เท่ห์เสมอ” แม้ว่าแบรนด์นี้จะมีมานานแล้ว แต่ก็ยังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปในยุคดิจิทัลและเป็นที่จดจำมาโดยตลอด ทั้งนี้การมี Key Message จะเป็นตัวช่วยในการสร้างคุณค่าต่อการจดจำอีกด้วย
คอนเทนต์การนำเสนอแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญ
หลังจากสร้างให้แบรนด์สินค้าให้เป็นที่จดจำแล้ว คอนเทนต์คือส่วนสำคัญที่สามารถนำเสนอตัวตนของแบรนด์ให้ชัดเจนมากขึ้น เป็นการใช้การสื่อสารให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้า สร้างความเข้าใจในตัวแบรนด์ สินค้า หรือบริการได้มากขึ้น คอนเทนต์ในยุคดิจิทัลมีความสำคัญมาก การสร้างคอนเทนต์ที่ดีจะช่วยให้แบรนด์มีความโดดเด่นและแตกต่างจากแบรนด์อื่น และสร้างความชัดเจน ช่วยให้สื่อสารได้อย่างตรงจุด ปัจจุบันคอนเทนต์มีได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ข้อความ บล็อก E-book หรือการสร้างสถานการณ์ให้สอดคล้องกับตัวแบรนด์ ยิ่งช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าหรือผู้ใช้บริการได้มากขึ้น
กลุ่มลูกค้า
แบรนด์ต้องชัดเจนว่า กลุ่มลูกค้าเป็นใคร ไลฟ์สไตล์และความชอบของแต่ละกลุ่มเป็นไปในทิศทางใด ซึ่งเราสามารถแยกกลุ่มลูกค้าได้ได้จาก
- อายุ วัยหรือช่วงอายุของลูกค้าเป็นปัจจัยสำคัญต่อการสร้างแบรนด์ เช่น แบรนด์สินค้ากลุ่มผ้าอ้อมสำเร็จรูป การทำสื่อหรือคอนเทนต์ จะมุ่งเน้นไปที่กลุ่ม “คุณแม่” เพราะเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ หรือผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่ การทำสื่อหรือคอนเทนต์ จะมุ่งเน้นไปที่กลุ่ม “ลูก” ที่ดูแลผู้สูงอายุในบ้าน เพราะเป็นผู้ตัดสินใจในการเลือกซื้อ
- เพศ ปัจจุบันมีความหลากหลายทางเพศมีมากขึ้น แบรนด์ต่างๆ ต้องปรับทั้งตัวสินค้าและการสื่อสารให้สามารถครอบคลุมได้กับทุกเพศ ยกตัวอย่างเช่น น้ำหอม ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าแบรนด์น้ำหอมบางแบรนด์ปรับตัว ออกผลิตภัณฑ์ ที่เป็น UNISEX ทำให้ใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงรวมถึงเพศทางเลือก ทำให้ฐานลูกค้าของแบรนด์กว้างขึ้น และสร้างความโดดเด่นให้แก่แบรนด์ด้วย
- พฤติกรรมของผู้บริโภค จะเห็นได้ว่าหลังจากเกิดวิกฤติโควิท พฤติกรรมของผู้บริโภคเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นช่องทางการซื้อสินค้าหรือบริการ การชำระเงิน รวมถึงการเปลี่ยนใจจากการซื้อสินค้าแบรนด์เดิมๆ ไปสู่แบรนด์ใหม่ ซึ่งแบรนด์เองต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง เพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่าและขยายไปสู่ฐานลูกค้าใหม่ๆ การสร้างกลยุทธ์ของแบรนด์จึงต้องปรับตามพฤติกรรมของผู้บริโภคให้ทันและตอบสนองต่อความต้องการได้อย่างรวดเร็ว
ช่องทาง Online และ Offline
ช่องทางออนไลน์ เป็นช่องทางหลักที่ใช้ในการตลาดในยุคดิจิทัล แต่ทั้งนี้ช่องทางออฟไลน์ก็ยังต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน ยกตัวอย่างเช่น ร้านอาหารที่เพิ่มช่องทางการขาย Online เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าที่ไม่สะดวกมาหน้าร้าน แต่ในส่วนหน้าร้านก็ยังต้องให้ความสำคัญ ทั้งความสะอาด คุณภาพของอาหาร และการบริการของพนักงาน เมื่อแบรนด์ทำการตลาดทั้ง 2 ช่องได้อย่างไร้รอยต่อ จะสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ทั้งลูกค้าที่สั่งทาง Online และลูกค้าแบบ Offline ที่เข้ามาใช้บริการกับทางร้านจนเกิดการบอกต่อในช่อง online และแบบปากต่อปากจะช่วยเสริมให้การสร้างแบรนด์ในยุคดิจิทัล ประสบความสำเร็จ และเป็นที่น่าจดจำ
ที่กล่าวมานั้น เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยเสริมให้การสร้างแบนด์ในยุคดิจิทัล ประสบความสำเร็จ แม้ในภาวะที่มีการแข่งขันกันอย่างสูง หากมีการพัฒนาแบรนด์สินค้าหรือบริการให้เข้ากับยุคสมัยอยู่ตลอด ทันต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคอยู่เสมอ รวมถึงมีเครื่องมือในการทำการตลาดอย่างเหมาะสมตรงกับกลุ่มเป้าหมายรับรองว่าแบรนด์ของคุณต้องปังในยุคดิจิทัลแน่นอน