ผิวดี…..คือผิวทีมีลักษณะอย่างไร

ก่อนสร้างแบรนด์ ต้องศึกษาสภาพผิว เพื่อให้ตอบโจทย์กับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการผลิต จะผลิตสกินแคร์ให้ผิวดี ต้องรู้ลึกถึงสภาพผิวและชั้นผิว เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงปัญหาที่แท้จริง

ผิวดี มีลักษณะอย่างไร และจะดูแลผิวอย่างไร ให้เป็นผิวที่มีสุขภาพดี

การดูแลผิวให้เป็นผิวสุขภาพดี  ไม่ใช่แค่การดูแลให้ผิวพรรณดูขาวกระจ่างใสเท่านั้น
 ในความจริงแล้ว “ผิว” ยังมีรายละเอียดที่มากกว่าความขาวกระจ่างใส ผิวมีทั้งคอลลาเจน
รูขุมขน ไขมัน เส้นเลือดและอื่นๆ เป็นตัวประกอบ การดูแลผิวจึงควรดูแลในส่วนอื่นๆ ร่วมด้วย เพื่อให้ภาพรวมของผิวออกมามีสุขภาพดีที่สุด เป็นผิวที่ดูดีตั้งแต่ภายในส่งผลออกมาถึงภายนอก


ลักษณะของผิวที่ดี คือ

1.เรียบเนียน ไม่ขรุขระ
เป็นลักษณะผิวมองเห็นด้วยตา หรือใช้มือลูบสัมผัสจะไม่มีความขรุขระ  ไม่มีอะไรมาทำให้เป็นจุดสะดุด

2.ความชุ่มชื้น
ผิวที่มีสุขภาพดีจะชุ่มชื้นจากใต้ชั้นผิว เป็นความชุ่มชื้นจากภายในที่สู่ภายนอก
โดยปกติแล้วผิวจะมีการสร้างมอยส์เจอร์ไรเซอร์ได้เองตามธรรมชาติ

3.สีผิวมีความสม่ำเสมอ ไม่มีจุดด่างดำ
ผิวหนังภายนอกจะเป็นตัวที่บ่งบอกถึงสุขภาพผิวภายใน หากภายในโครงสร้างของผิวภายในดี ผิวที่อยู่ภายนอกก็จะดีไปด้วย จะเป็นผิวที่มีสีผิวสม่ำเสมอ ไม่มีรอยแดง รอยดำ หรือฝ้ากระ

4.ผิวหนังมีความแข็งแรงมี
Skin barrier
Skin barrier คือชั้นโครงสร้างผิวของผิวชั้นบน หรือ ผิวชั้น STRATUM CORNEUM ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องร่างกายจากสิ่งแปลกปลอมภายนอก เช่น ฝุ่นละออง สารเคมี รังสียูวี เชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ในขณะเดียวกัน ชั้นปราการผิวยังช่วยป้องกันไม่ให้มีการสูญเสียความชุ่มชื้นออกจากภายในชั้นผิวด้วย  หาก Skin barrier ไม่สมบูรณ์ จะส่งผลให้ผิวมีลักษณะต่างๆ เช่น เป็นสิว ผิวหน้ามัน รอยแดง ผื่นคันและ แพ้ง่าย

5.ผิวกระชับเต่งตึงไม่หย่อนคล้อย
ผิวที่กระชับเต่งตึง ปราศจากริ้วรอย เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่บอกได้ว่าผิวของเรามีสุขภาพดี
ผิวที่ดูไม่ดี อาจเกิดจากการที่ผิวที่ไม่สามารถสร้างเส้นใย คอลลาเจนและอิลาสตินได้เพียงพอ ส่งผลให้ภายนอกของผิวมีความเหี่ยว ย่น มีริ้วรอย และหย่อนคล้อยไม่กระชับ

6.ผิวที่ปราศจากปัญหาเกี่ยวกับผิวเรื้อรัง
ปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิว ผด หรือผื่นแดง แห้งเป็นขุย  แพ้ง่าย ล้วนเป็นปัจจัยที่บ่งบอกว่าผิวเรากำลังมีปัญหา  ผิวที่มีสุขภาพดี ต้องเป็นผิวที่แข็งแรง ไม่มีปัญหาผิวที่รักษาไม่หาย รักษาแล้วกลับมาเป็นอีก



ก่อนที่จะเสริมสร้างผิวให้มีคุณภาพและสุขภาพดี ควรทำความรู้จักกับผิวหนังก่อนว่า
ผิวหนังประกอบด้วยอะไรบ้าง มีกี่ชั้น แต่ละชั้นทำงานอย่างไร มีหน้าที่อะไร

ผิวหนัง ประกอบด้วยชั้นผิวหนังดังนี้
1.
หนังกำพร้า (Epidermis)
เป็นชั้นผิวหนังที่อยู่ด้านบนสุดและอยู่ด้านนอกที่สุด เป็นปราการด่านแรกที่ทำการปกป้องร่างกาย เป็นชั้นปกคลุมทุกอย่างเอาไว้ โดยชั้นนี้จะประกอบไปด้วยเซลล์ต่างๆ ที่มีการเรียงซ้อนกันเป็นชั้น สามารถผลัดเซลล์ผิว และสร้างเซลล์ผิวให้เกิดขึ้นมาใหม่ได้ โดยเซลล์ที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่จะเป็นการสร้างจากผิวชั้นที่อยู่ด้านล่างสุดที่อยู่ติดกับผิวหนังชั้นหนังแท้และผิวหนังชั้นนี้จะค่อยๆ เจริญเติบโตและเคลื่อนตัวขึ้นมาเพื่อทดแทนเซลล์ที่อยู่ด้านบน ซึ่งเซลล์ที่อยู่ด้านบนก็จะกลายเป็นขี้ไคล (Keratin) สามารถหลุดลอกออกไปตามกลไกของร่างกาย

ชั้นหนังกำพร้ายังมีเซลล์ เมลานิน ที่เป็นเซลล์เม็ดสีผิว  จำนวนของเมลานินนั้นขึ้นอยู่กับพันธุกรรม ทำให้สีผิวของคนเรามีความแตกต่างกัน  ชั้นหนังกำพร้ายังเป็นทางผ่านของรูเหงื่อ เส้นขน และต่อมไขมันอีกด้วย

2.หนังแท้ (Dermis)
ผิวหนังชั้นหนังแท้เป็นผิวหนังที่จะอยู่ชั้นถัดจากหนังกำพร้าลงไป จะมีความหนาของชั้นผิวมากกว่าชั้นหนังกำพร้ามาก ผิวหนังชั้นหนังแท้จะประกอบไปด้วยโปรตีนหลักในชั้นผิว 2 ชนิดคือ คอลลาเจน (Collagen) และอีลาสติน (Elastin)

คอลลาเจน (Collagen) เป็นโปรตีนที่ช่วยพยุงโครงสร้างของผิวหนังและให้ความแข็งแรงแก่ผิวหนัง ทั้งยังช่วยในการเร่งการซ่อมแซมผิวหนังที่บาดเจ็บ

อีลาสติน (Elastin) จะเป็นโปรตีนที่ช่วยในการสร้างความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง

โดยในผิวหนังชั้นหนังแท้ยังเป็นที่รวบรวม หลอดเลือด เส้นประสาท กล้ามเนื้อที่เกาะเส้นขน ต่อมไขมัน ต่อมเหงื่อ และขุมขนที่กระจายอยู่ทั่วทั้งร่างกายอีกด้วย

3.ชั้นใต้ผิวหนัง (Subcutaneous tissue) หรือ ชั้นไขมัน (Subcutaneous)
สำหรับชั้นใต้ผิวหนังเป็นชั้นที่ประกอบไปด้วยเซลล์ไขมัน  ทําหน้าที่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายเป็นหลัก โดยจะสะสมอยู่มากบริเวณสะโพก เอว ต้นขา ซึ่งไขมันในชั้นนี้ จะเป็นเหมือนกับฉนวนกันความร้อน เพื่อช่วยลดแรงกระทบกระแทกร่างกายจากภายนอก  ซึ่ง Cellulite ก็จะอยู่ในชั้นผิวหนังชั้นนี้ด้วย เมื่ออธิบายชั้นผิวหนังต่างๆ ตามด้านบนแล้วจึงทำให้เห็นว่าการดูแลผิวหนังไม่ใช่เพียงแค่การทาครีมหรือดูแลเพียงแค่ชั้นผิวหนังด้านบนที่เรามองเห็นเพียงเท่านั้น
หากแต่จะต้องดูแลชั้นผิวหนังให้ดีขึ้นอย่างทั่วถึงทั้งใต้ชั้นผิว เพื่อเป็นการเสริมสร้างโครงสร้างของผิวให้ดีขึ้นตั้งแต่ภายในเพื่อให้ส่งผลที่ดีถึงภายนอก เพื่อรสร้าง Skin Barrier  ที่ดีให้แก่ผิวนั่นเอง


ปัญหาของผู้ที่จะเริ่มต้นผลิตสกินแคร์สร้างแบรนด์ หลายๆท่าน คือ ต้องการผลิตสินค้าที่ขายดี
ขายได้ แต่ยังไม่ได้ศึกษาถึงสภาพผิวและการแก้ปัญหาอย่างตรงจุด
หากเรามีความรู้ความเข้าใจถึงชั้นผิวและสภาพผิว เราจะมีไอเดียที่สร้างผลิตภัณฑ์ขึ้นมาตอบโจทย์ผิวในสภาพต่างๆ ให้เป็นผิวที่มีสุขภาพดีได้อย่างตรงจุด

นอกจากนั้นยังต้องพิจารณาถีงโรงงานที่รับผลิต ต้องเป็นโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน  ที่ได้รับรองมาตรฐาน ASEAN GMP  ผ่านการตรวจสอบและรับรองคุณภาพจาก กระทรวงสาธารณะสุข และ ISO 22716 GMP for Cosmetics – SGS ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ  

โรงงานรับผลิตสกินแคร์สร้างแบรน์ AESTHETIC DEFINITION เป็นโรงงานรับผลิตครีมทาผิวที่เริ่มตั้งแต่พัฒนาสูตร ออกแบบบรรจุภัณฑ์ ตราสินค้า ขึ้นทะเบียนสินค้า และหนังสือรับรองต่าง ๆ มั่นใจได้ในมาตรฐานการผลิตที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก มีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา แนะนำ สำหรับเจ้าของแบรนด์มือใหม่ เรามีสูตรมาตรฐานให้เลือกมากมายตามความต้องการของลูกค้า

ต้องการสร้างผิวสุขภาพดี ให้ Aes De ตอบโจทย์ทุกความต้องการ




Share:
Share on facebook
Share on twitter
Share on pinterest
Share on linkedin
รับคำปรึกษาฟรี
เริ่มต้นสร้าง
แบรนด์กับเรา
เพิ่มเพื่อน

Connect us

บทความที่คุณอาจสนใจ